ความสัมพันธ์ของแรงจูงใจกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนในสังกัดส่วนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

The relationship between motivation and productivity of the Investigative Staff in the Royal Thai Police Center

Name: นพพร ศุภพัฒน์

ThaSH: สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Classification :.DDC: วน363.22

ThaSH: ตำรวจ - - ความพอใจในการทำงาน

ThaSH: พนักงานสอบสวน

ThaSH: การจูงใจในการทำงาน

Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับของแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมของพนักงานสอบสวนในสังกัดส่วนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเปรียบเทียบระดับของแรงจูงใจในการปฏิบัติงานจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล เพื่อศึกษาผลการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนในสังกัดส่วนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนในสังกัดส่วนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยรวม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ พนักงานสอบสวน (สบ 1 - 3) ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สุ่มมา จำนวน 324 คน การรวบรวมข้อมูลโดยแบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่น = 0.92 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t - test F - test และค่าสหสัมพันธ์ การศึกษาครั้งนี้ได้กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า ระดับของแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมของพนักงานสอบสวนในสังกัดส่วนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ในระดับมาก ( = 3.42, S.D. = 0.56 ) โดยมีปัจจัยจูงใจอยู่ในระดับมาก แต่ปัจจัยสุขอนามัยอยู่ในระดับปานกลาง ผลการเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวน พบว่า เพศชายและเพศหญิงมีแรงจูงใจปัจจัยจูงใจ และปัจจัยสุขอนามัยต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สำหรับพนักงาน สอบสวนที่มีรายได้ค่าตอบแทนต่อเดือนต่างกันมีแรงจูงใจและปัจจัยสุขอนามัยไม่ต่างกัน ยกเว้นปัจจัยจูงใจต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนพนักงานสอบสวนที่มีอายุ สถานภาพ ระยะเวลาที่รับราชการ ระดับการศึกษา ตำแหน่ง และสังกัดต่างกันมีแรงจูงใจ ปัจจัยจูงใจ และปัจจัยสุขอนามัยไม่ต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นอกจากนี้ พบว่า แรงจูงใจ มีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนในสังกัดส่วนกลางของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ข้อเสนอแนะ ควรมีการพิจารณาปรับค่าตอบแทนและเงินเดือน สนับสนุนด้านเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ในการทำงานอย่างเหมาะสมและเพียงพอ ปกครองบังคับบัญชาด้วยหลัก ธรรมาภิบาล ส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพ ประชุมรับฟังความคิดเห็นในการกำหนดนโยบายและการบริหาร และปรับการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นเครื่องมือในการบริหารงานที่มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Abstract: The purpose of this research is to study the correlation between the levels of motivation and the performance of the investigative staff in the Royal Thai Police Center. During the research, this study was emphasized on two main areas, which are work regulations and work achievement. The results of study derived from considering overall factors and differentiating them according to personal criteria. A sample of 324 cases was drawn from related police stations, using simple random sampling method. The study was conducted through questionnaires reliability = 0.92 by using method of statistical analysis such as percentage, means, standard deviation t - test, F - test and correlation. The significant statistic level was set at the level of 0.05 After conducting the research under the methodology mentioned above, the researcher found that the overall motivation level of investigative staff is considered strong, motivation level on motivation factor is considered strong, but motivation level on hygienic factor aspects is considered moderate. Comparably as between categorized into the aspects of individuality, found that male Investigative staff have the overall motivation, motivation factor and hygienic factor’s difference. By statistically significant at 0.05 level. For income Investigative staff haven’t the overall motivation, and hygienic factor’s difference. But the motivation factor has difference. By statistically significant at 0.05 level. Part Investigative staff have Age, Status, For along time, Education, Situation and Part of The Royal Thai Police haven’t the overall motivation, motivation factor and hygienic factor’s difference. By statistically significant at 0.05 level. According to the assumption, implies that the performance is in relation to the overall motivation. By statistically significant at 0.05 level. This research concludes that there should be an increase of salary rates for investigative staff. Furthermore, for the Royal Thai Police to better serve the public, adequate equipment is needed along with other improvements such as good governance, career progress, and participation of its staff to make policies.

Chandrakasem Rajabhat University

Address: BANGKOK

Email: krisada13@gmail.com

Name: ผศ.ดร.อมรา รัตตากร

Role: ประธานควบคุมภาคนิพนธ์

Created: 2549-12-23

Modified: 2552-12-15

Issued: 2551-09-15

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วน363.22 น176ค

tha

DegreeName: ปริญญาโท

Level: ปริญญาโท

Descipline: การจัดการทั่วไป

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	prawat.pdf	60.61 KB	134	2022-05-04 00:24:02
2	pakpanoung2.pdf	36.51 KB	112	2025-07-03 16:27:07
3	pakpanoung1.pdf	83.54 KB	125	2023-01-19 15:59:00
4	bunnanugrom.pdf	67.49 KB	121	2022-05-04 00:24:36
5	bot5.pdf	70.16 KB	126	2022-09-17 15:44:25
6	bot4.pdf	204.75 KB	111	2022-05-04 00:24:52
7	bot3.pdf	105.59 KB	126	2022-05-04 00:25:00
8	bot2.pdf	187.45 KB	236	2025-02-15 10:47:45
9	bot1.pdf	112.63 KB	177	2024-02-08 11:54:59
10	sarabun.pdf	82.9 KB	93	2023-12-25 16:34:22
11	botcudyor.pdf	74.05 KB	125	2025-02-15 10:46:26
12	pok.pdf	37.29 KB	103	2025-02-15 10:46:59

ใช้เวลา

0.043788 วินาที