แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
พิศิษฐ ตัณฑวณิช. การประเมินประสิทธิภาพรูปแบบการฝึกอบรม. (). มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์. : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, 2536.
การประเมินประสิทธิภาพรูปแบบการฝึกอบรม
An Evaluation of Inservice Teacher-training Methods
Name: พิศิษฐ ตัณฑวณิช
Organization :
วิทยาลัยครูสุรินทร์. กองส่งเสริมวิทยฐานะครู กรมการฝึกหัดครู
keyword:
การฝึกอบรม
Classification :.DDC: 370.7
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบว่า รูปแบบการอบรมครูประจำการ 3 รูปแบบ คือ การบรรยายแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้ารับการอบรม การอบรมโดยเน้นการมีส่วนร่วม และการอบรมแบบนำเอกสารไปศึกษาด้วยตนเอง รูปแบบใดจะมีประสิทธิภาพสูงกว่ากัน
กลุ่มพลวิจัยเป็นครูประจำการสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสุรินทร์ โดยแยกการอบรมเป็น 4 รุ่น รุ่นที่ 1 จำนวน 30 คน เป็นการเตรียมความพร้อม รุ่นที่ 2 3 และ 4 มีกลุ่มพลวิจัยเข้ารับการอบรมรุ่นละ 53 64 และ 69 คนตามลำดับ โดยจัดอบรมในรูปแบบที่ต่างกันคือ การบรรยายแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้ารับการอบรม การอบรมโดยเน้นการมีส่วนร่วม และการอบรมแบบนำเอกสารไปศึกษาด้วยตนเองตามลำดับเช่นกัน เนื้อหาที่ใช้ในการอบรมคือเรื่อง เทคนิคการวิเคราะห์ผู้เรียน การอบรมจัดในช่วงเดือนกรกฏาคม และสิงหาคม 2536 แต่ละรุ่นใช้เวลา 2 วัน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลประกอบด้วยแบบสอบอิงเกณฑ์จำนวน 32 ข้อ และมาตราส่วนประมาณค่าเมื่อวัดระดับความพึงพอใจในการเข้ารับการอบรมจำนวน 6 ข้อความ แต่ละข้อความใช้ช่วงการประมาณ 5 ระดับ
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ในด้านผลสัมฤทธิ์จากการอบรมพบว่า เมื่อใช้คะแนนเฉลี่ยของกลุ่มที่นำเอกสารไปศึกษาด้วยตนเอง ก่อนการบรรยายสรุป กลุ่มดังกล่าวมีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าอีกสองกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 แต่เมื่อใช้คะแนนของกลุ่มที่นำเอกสารไปศึกษาด้วยตนเองหลังการบรรยายสรุป พบว่าทั้งสามกลุ่มมีค่าเฉลี่ยด้านผลสัมฤทธิ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ในส่วนของความพึงพอใจในการเข้ารับการอบรม พบว่า ในส่วนของกลุ่มที่นำเอกสารไปศึกษาด้วยตนเอง เมื่อใช้คะแนนเฉลี่ยก่อนการบรรยายสรุปของกลุ่มดังกล่าว ค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่รับการอบรมโดยการบรรยายแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้ารับการอบรมสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอีกสองกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แต่ถ้าหากใช้คะแนนในกลุ่มที่ศึกษาด้วยตนเองหลังการบรรยายสรุป พบว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่รับการอบรมแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้ารับ
การอบรมแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้ารับการอบรม และกลุ่มที่นำเอกสารไปศึกษาด้วยตนเองให้ผลไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการวิจัย จึงมีข้อมูลชัดเจนว่า รูปแบบการบรรยายแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้ารับการอบรมมีประสิทธิภาพสูงกว่ารูปแบบการอบรมอีกสองรูปแบบ
Abstract:
The main purpose of this research was to compare the level of achievement and level of satisfaction of inservice teachers those who came to participate in the training course Student Diagnostic in 3 difference methods of training, lecturing, lecturing with verbal interaction with trainees, training with active activity of trainees and self-studying of trainees.
Subjects consisted of 216 elementary teachers in Surin Province. The study was conducted in the first semester of 1993 academic year. The training required 2 days for each group.
The data analysis revealed that for achievement level, self study group of trainees had statistically sigificant lower mean than the other two groups. For the satisfaction part, trainees in lecturing with verbal interaction with trainees group had higher statistically significant mean compare with the other two group. So it could be concluded that lecturing with verbal interaction with trainees was better method for training than the other two methods.
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
Address:
สุรินทร์
Role:
ผู้ให้ทุนวิจัย
Created:
2536
Issued:
2548-08-31
งานวิจัย/Research report
application/pdf
CallNumber:
370.7 พ238ก
tha
Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.035698 วินาที
พิศิษฐ ตัณฑวณิช
สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ
| Title | Creator | Type and Date Create |
|---|---|---|
| การประเมินประสิทธิภาพรูปแบบการฝึกอบรม
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ | พิศิษฐ ตัณฑวณิช | งานวิจัย/Research report |